วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555

บัตรโดยสาร T-money ของเกาหลี

 บัตรโดยสาร T-money 

    ถ้าไปเที่ยวเกาหลีหลายๆวัน เมื่อไปถึงแล้วควรจะหาซื้อ T-money ไว้เลย เพราะว่าบัตรที่เรียกว่า pre-paid เหมือนบัตรเติมเงิน ที่เราจะเติมเงินไว้ในบัตร แล้วใช้บัตรนี้แทนเงินสด สำหรับการจ่ายเงินที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การจ่ายค่าตั๋ว subway ซึ่งสะดวกมากๆ มากกว่าการซื้อตั๋วด้วยเงินสด และยังสะดวกรวดเร็วประหยัดกว่าด้วยค่ะ นอกจากนั้น สามารถไว้จ่ายค่ารถ Taxi บางคันที่มีเครื่องรับ T-money ด้วยค่ะ ไว้จ่ายค่ารถประจำทาง ค่าทางด่วน ค่าเข้าชมพระราชวัง และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ด้วย รวมทั้งการซื้อของในร้าน GS25 หรือพวก Family Mart 


   โดยเราสามารถซื้อบัตรนี้ ได้ตามสถานี Subway หรือจะมีบู๊ทขายตั๋วตามป้ายรถประจำทาง หรือซื้อที่ตามร้าน GS25 หรือ Family Mart ได้ โดยจะเติมเงินครั้งหนึ่งตั้งแต่ 10,000 won ขึ้นไป และค่าบัตรครั้งแรก 2,500 won ค่ะ เท่ากับครั้งแรกจ่าย 12,500 won แล้วเราจะมีเงินในบัตร 10,000 won ค่ะ โดยสามารถเติมเงินได้เรื่อยๆ ครั้งละขั้นต่ำ 10,000 won ค่ะ

   เวลาใช้ เราจะต้องมีเงินในบัตรมากกว่าจำนวนเงินที่เราต้องจ่ายนะค่ะ ถ้าไม่พอ จะไม่สามารถจ่ายแบ่งได้ แล้วเมื่อเราใช้บัตรหมดแล้ว เราจะสามารถทำการ return คืนเงินค่ามัดจำคืนได้ ก็จำนวน 2,500 won นั่นเอง แต่ว่าในการจ่ายคืน เราจะต้องมีบัญชีธนาคารที่เกาหลี นั่นไง แสดงว่า เราคงไม่ได้รับคืน ถือว่าซื้อบัตรมาเป็นที่ระลึกเก็บไว้แล้วกัน หรือไม่ก็ไว้มาอีกครั้ง ก็นำมาใช้ได้อีก มาเติมเงินได้อีก

   แต่ถ้าเราใช้เงินในบัตรไม่หมด สามารถแลกเป็นเงินคืนได้แค่เงินที่เติม ไม่รวมค่ามัดจำ

ขึ้นรถเเท๊กซี่เกาหลีกันดีกว่า

รถแท๊กซี่

   แท็กซี่ เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่ท่านสามารถใช้บริการได้ เพราะสะดวก สะอาด ปลอดภัย เรียกหาได้ทั่วไป บริการ 24 ชั่วโมง จะเรียกแท็กซี่ตามถนน หรือ ใช้บริการทางโทรศัพท์ ซึ่งแท็กซี่ประเภทนี้จะมีราคาค่อนข้างแพงกว่าแท็กซี่ธรรมดา ปัจจุบัน มีจำนวนคนขับรถแท็กซี่ที่พอพูดภาษาอังกฤษได้บ้างเพิ่มมากขึ้น



   ราคาแท๊กซี่เริ่มต้นมิเตอร์ด้วย 60 บาท/2กิโลแรก ราคาค่ารถค่อนข้างแพงหากแทบกับรถไฟใต้ดิน subway ถ้าไม่รีบจริงๆ คนกาหลีไม่นิยมนั่งแท๊กซี่กัน อย่างไรก็ตาม subway หมดตอนเที่ยงคืน เลยเที่ยงคืน แท็กซี่ชารต์เพิ่มอีก 20% หรือ ถ้านั่งเกิน 4 ต้องจ่ายเพิ่มอีก แต่ว่าแท๊กซี่ที่นี่ไม่น่ากลัว มารยาทดี 




แท็กซี่เกาหลีนั้น มีหลายป้ายสี กรุณาสังเกตุให้ดีด้วย 

   แท็กซี่ป้ายฟ้า ถ้าคนขับพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ คิดค่าบริการ 1,900 วอนต่อ 2 กิโลเมตรแรก ช่วงเที่ยงคืนถึงตีสี่ จะคิดเพิ่ม 20%


   แท็กซี่ป้ายเหลือง แบบเดอลุกซ์ แพงขึ้นอีกเท่าตัวประมาณ 4,000 วอนต่อ 3 กิโลเมตรแรก คนขับพูดภาษาอังกฤษได้ ไม่ต้องเสียค่าบริการเพิ่มในตอนกลางคืน สีขาว 


แท็กซี่แบบสีดำ ติดป้ายว่า ”deluxe taxi ” แท๊กซี่ไฮโซ ที่นั่งรึก็กว้างกว่า คนขับรึแต่งตัวดี ราคาแพง ไม่รับผู้โดยสารอื่น ที่เกาหลี มีกฎหมายให้นั่งแท็กซี่ได้ไม่เกิน 4 คนเท่านั้น คิดค่าบริการ 160 บาท ต่อ 2 กิโลเมตร

แท็กซี่อินเตอร์ เริ่มใช้ได้ทั่วไปในกรุงโซล ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม นี้ เป็นต้นไป ซึ่งคนขับรถแท็กซี่อินเตอร์ สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ มีสีที่ต่างกับแท็กซี่ทั่วไป และมีสัญลักษณ์พิเศษสีเหลือง คนขับรถจะใส่ชุดยูนิฟอร์ม ค่าโดยสารของแท็กซี่ชนิดนี้จะแพงกว่ารถแท็กซี่ทั่วไป ประมาณ 20% นักท่องเที่ยวสามารถเลือกจ่ายเป็นเงินสด หรือ บัตรเครดิตได้ ติดต่อสอบถามการใช้บริการแท็กซี่อินเตอร์ได้ที่ เคาน์เตอร์แท็กซี่อินเตอร์ที่สนามบินนานาชาติอินชอนและคิมโป หรือ สามารถจองออนไลน์ได้ที่ internationaltaxi.co.kr ราคาค่าโดยสารก็แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับชนิดของรถและเวลา

ขึ้นรถเมย์ในเกาหลีให้ดี ไม่มีหลง!!

รถประจำทาง



   บัสเลนที่นี่ อยู่ตรงกลางถนน เมื่อท่านลงจากรถ ต้องข้ามจากเกาะกลางไปยังถนนด้านข้างๆ ตอนขากลับก็ต้องข้ามถนนไปขึ้นรถขากลับตรงกลางถนนเช่นเดียวกัน เพียงแต่ขึ้นป้ายรถเมล์ที่หันหัวไปทางตรงข้ามกับขามานั่นเอง ไม่ลำบากอะไร แค่เดินเยอะๆ ก็จะรู้จุดขึ้น-จุดลงเอง เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการขึ้นรถเมล์ในเกาหลี



   ระบบรถโดยสารประจำทางตามเมืองต่างๆ จะแตกต่างกันเล็กน้อย ในเมืองใหญ่ๆ มีรถโดยสารธรรมดาและรถด่วน ถึงแม้รถพวกนี้จะมีเบอร์ติดอยู่ ป้ายต่างๆ เป็นภาษาเกาหลี ดังนั้น ท่านอาจรู้สึกสับสนที่จะขึ้นรถให้ถูกคัน และเบอร์รถที่ต้องการ อาจใช้เหรียญหรือบัตรสำหรับจ่ายค่าโดยสารที่สามารถหาซื้อได้ตามแผงใกล้ป้ายรถ สะดวกมากๆ



   ส่วนรถโดยสารประจำทางแบบพิเศษ หรือเรียกว่า "ชวาซก"  ก็สะดวกสบายกและติดเครื่องปรับอากาศ รถนี้แวะจอดน้อยกว่ารถโดยสาร ปกติจึงวิ่งในเขตที่จราจรติดขัดได้เร็วกว่า ค่าโดยสารสำหรับรถโดยสารประจำทางแบบพิเศษราคา 1,300 วอน ค่าโดยสารสำหรับรถโดยสารประจำทางแบบด่วนใหม่และหรูหราราคา 1,400 วอน
รถประจำทาง เป็นที่นิยมมากโดยเฉพาะคนเกาหลี เพราะราคาไม่แพง สะอาด ที่นั่งกว้างขวาง หาง่ายที่สุดในกรุงโซล มีรถถี่ตรงต่อเวลาและไม่แพง และมีเครือข่ายรถโดยสารให้บริการทุกเขตของเมือง ค่าโดยสารสำหรับ ผู้ใหญ่ราคา 600 วอน ไม่ว่าจะมีระยะทางเท่าไรก็ตาม

   รถประจำทางบางสายจะขับไปถึงจุดรอรถ ท่านต้องเข้าแถวขึ้น แล้วชำระค่าโดยสาร รถประจำทางในเมืองใหญ่ๆ เค้านิยมใช้ T-money เป็นการ์ดแทนเงินสด ไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้า ค่าแท็กซี่ รถเมล์ T-money เป็นการ์ด หรือ ชิบ ในรูปฟอร์มต่างๆ ที่ใช้ชำระค่าบริการขนส่งต่างๆ และชำระสินค้าหรืออื่นๆ ในร้านสะดวกซื้อ หรือร้านที่มีเครื่องหมายตัวนี้ ไม่ต้องใช้เงินสด ไม่ต้องสับสนเรื่องเงินทอน ขึ้นรถ ท่านก็แตะการ์ดนี้กับเครื่องๆจะหักในบัตรอัตโนมัติ เมื่อได้ยินเสียงปิ๊บแสดงว่ามันบันทึก แล้วท่านจึงไปหาที่นั่ง และเมื่อไปถึงจุดหมายก็กดกริ่งที่ติดไว้ใกล้ๆ รถเมล์เจาจะจอดตามป้าย ก่อนลงท่านก็เอาบัตรไปแตะอีกรอบ เป็นการบันทึกขาลงจากรถ แล้วก็ลงตามจุดหมายปลายทาง

วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2555

มารู้จักรถไฟใต้ดินที่เกาหลีกันจะได้ไม่หลง

เดินทางเองในเกาหลี ต้องรู้จัก subway รถไฟใต้ดินแบบนี้

มาถึงเรื่องของ รถไฟใต้ดิน หรือ Subway

ที่เราควรต้องทำการศึกษาอย่างดี หากเราจะเที่ยวเองนะค่ะ เพราะว่าจะช่วยให้เราประหยัดเวลา และเสียเวลาในการหลงน้อยลง

โดยจะแบ่งออกเป็น 8 สายค่ะ เราสามารถกดเลือกดูทีละสาย ได้ ตรงนี้ค่ะ



Line1 สีน้ำเงิน KRR สายนี้จะวิ่งบนพื้นดิน โดยจะเชื่อมกรุงโซลกับเมืองต่างๆ ที่สำคัญ เช่น Suwon(ซูวอน ที่เราจะไปตอน Everland ค่ะ) , Incheon (อินชอน เวลาจะไปสนามบิน หรือจะไป Full House ได้ค่ะ) , Asan และ Uijeongbu



Line 2 สีเขียว สายนี้จะวิ่งเป็นวงกลม ข้ามผ่านแม่น้ำฮันคัง Hangang สายนี้ ไว้ตอนเวลาเราจะไป Hapjeong ฮัปจง ที่จะมีศาสนอุทิศสถานซอลทูซาน ,สถานีมหาวิทยาลัยฮงอิก hongik Univ.Way in และ สถานีมหาวิทยาลับฮีฮวา Ewha Women Univ.

Line 3 สีส้ม จะวิ่งจากแทวา Daewha ทางตะวันออกเฉียงเหนือ และไปทางตอนใต้ เป็นการเชื่อมระหว่างกรุงโซล กับเมืองใหม่ 2 เมือง คือ พันดัง และ อิลซาน



Line 4 สีฟ้า สายนี้จะวิ่งตรงกันข้ามกับสาย 3 เริ่มจากทังกอแก Danggogae ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ถึงซาดัง และเชื่อมกับทางใต้ที่สถานีอันซาน Ansan




Line 5 สีม่วง สายนี้จะเน้นวิ่งผ่านใจกลางกรุงโซล ไปยังสนามบินกิมโป




Line 6 สีน้ำตาล สายนี้จะวิ่งจากหยักซู Yaksu ไปยังพงฮวาซัน Bonghwasan




Line 7 สีเขียวขี้ม้า วิ่งจากชังอัม Jangam ไปยังอนซู Onsu




Line 8 สีชมพู จะวิ่งจากโมรัน Moran ไปยังอัมซา Amsa



    ถ้าให้ง่าย เวลาเราต้องการไปสถานที่ไหน เราก้อสามารถเจาะจงสถานีต้นทาง และสถานีปลายทาง ได้เลยค่ะ ตรงด้านซ้ายมือ จะมีช่องให้ Search  (แต่จะกดได้เวลาที่เราอยู่หน้า Total ของแผนที่)

    แบบนี้ ไม่ต้องพิมพ์ชื่อสถานี แค่เลือกตามตัวอักษร แล้วเลือกชื่อสถานีที่ต้องการค่ะ โดยกดลูกศรด้านข้าง จะออกมาให้เราเลือกแบบ


เช่น เราลองเลือก สถานีต้นทางเป็น Auguk แล้วสถานีปลายทางเป็น Cheongnyangni เพื่อไปเกาะนามิไงค่ะ เราจะได้ผลแสดงทั้งระยะทาง ค่าตั๋ว ด้านขวาแบบนี้


    ทำให้เราสามารถ plan ระยะเวลาในการเดินทาง และงบประมาณในการเดินทางล่วงหน้าได้ดีทีเดียวค่ะ และจะเห็นเส้นทาง ชัดๆ แบบนี้ค่ะ เราก้อแค่จดไปว่า ขึ้นไหน เปลี่ยนสถานีที่ไหน แล้วลงป้ายไหน กี่ป้าย แค่นี้เราก้อหลงน้อยลงแล้วค่ะ อิอิ

จะมีอีกอย่างที่ควรรู้คือ การเปลี่ยนสายสถานี เราจะสามารถเปลี่ยนสาย ได้ในสถานีที่แสดงเครื่องหมายแบบนี้ จะเป็นสถานีที่สามารถ Transfer แต่ละสายได้ จะสายไหนบ้างก้อดูว่า สถานีนั้นๆ อยู่บน line ใดบ้างค่ะ

     
     ซึ่ง เราจะต้องลง แล้วหาป้ายชี้บอกเส้นทางว่าจะไปต่อที่ไหนต่อนะค่ะ ซึ่งบอกชัดเจนว่า จะเดินไปสถานีไหนตรงไหน แบบนี้

   และในรถ จะมีป้ายหนึ่งที่สำคัญทีเดียว คือป้ายให้ที่นั่งสำหรับ เด็ก สตรีมีครรภ์ คนชรา และคนพิการ แบบนี้


    วิธีการจ่ายเงินค่าตั๋ว สามารถนำเงินสดไปซื้อที่เคาน์เตอร์ขายตั๋ว โดยบอกสถานีที่ต้องการไป พร้อมจำนวนตั๋วว่าต้องการกี่ใบ กับเจ้าหน้าที่ หรือว่าจะนำเงินสดไปซื้อที่ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ ก้อได้ค่ะ โดยเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติจะมี 2 แบบ แบบที่ใช้เฉพาะเหรียญซื้อตั๋ว กับแบบที่ใช้ได้ทั้งธนบัตรและเหรียญ

    แต่วิธีที่กรุ๊ฟว่าสะดวกที่สุด คือการใช้ T-money อย่างที่บอกไปแต่ต้น เพราะนอกจากสะดวก คือ เราก้อแค่เข้าไปทางเข้า แล้วแปะบัตร T-money ลงไป ก็จะทำการหักเงินเรา เวลาเราออก เราก้อแปะบัตรลงไปแอีก ถ้าเพิ่มเงิน ก้อจะหักเพิ่ม ถ้าไม่เพิ่ม ก้อจะแสดงว่าไม่หักเพิ่ม

   ราคาเริ่มต้นสำหรับเงินสด 1,000won ถ้าเป็น T-money จะ 900 won ค่ะ สำหรับ 12 กม. แรก และจะเพิ่ม 100 won ต่อ 6 กม.จากระยะตั้งแต่ 12-24 กม. และเพิ่ม 100 won ต่อ 12 กม. จากระยะตั้งแต่ 24 กม.ขึ้นไป

   ไม่ยุ่งยาก รับรองได้ ไม่ว่าจะแผนที่ที่ไหน จะมีแผนที่ของ Subway ให้ และในมือถือของคนเกาหลี จะมีแผนที่ Subway ไว้ด้วยนะคะ เก๋กู๊ดมากๆเลย

ถึงสนามบินเเล้วเราต้องเเลกเงินบาทเป็นเงินวอน...ก่อนอื่นมารู้จักสกุลเงินเกาหลี(korea)ก่อน


สกุลเงินเกาหลี

        สกุลเงินของประเทศเกาหลีใต้ คือ “วอน ()” สัญลักษณ์ คือ  และตัวย่อตามมาตรฐาน สากล ISO 4217 คือ KRW (Korea won) เรามาดูหน้าตาเงินเกาหลีกัน ว่าจะเป็นอย่างไร



เหรียญ (ทงจอน “”) มี 6 ชนิด คือ

 เหรียญ จำนวน 1 วอน (1)
เหรียญ จำนวน 5 วอน (5)
เหรียญ จำนวน 10 วอน (10)
เหรียญ จำนวน 10 วอน (50)
เหรียญ จำนวน 10 วอน (100)
เหรียญ จำนวน 10 วอน (500)




ธนบัตร (จี-พเย “”) มี 3 ชนิด คือ
 

 ธนบัตร จำนวน 1,000 วอน (1,000) 
ธนบัตร จำนวน 1,000 วอน (5,000)
ธนบัตร จำนวน 1,000 วอน (10,000)

ลัดฟ้าเที่ยวเกาหลี....จากสุวรรณภูมิสู่อินชอน

สนามบินที่ดีที่สุดในโลก
    สนามบินนานาชาติอินชอน



     ขอแนะนำสนามบินนานาชาติอินชอน ตั้งอยู่ที่เกาะเกาะยางจอง เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของกรุงโซล ท่าอากาศยานนานาชาติอินชอนได้รับการลงคะแนนให้เป็นท่าอากาศยานที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งเป็นสนามบินที่สำคัญของเกาหลีใต้ถือว่าเป็นสนามบินที่ทันสมัยและคับคั่งไปด้วยนักท่องเที่ยวและนักเดินทางและถือว่าเป็นท่าอากาศย่านที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก IIA โดยสนามบินอินชอนเปิดให้บริการตั้งแต่ ค.ศ. 2001 แทนสนามบินนานาชาติคิมโพสนามบินเดิมของเกาหลีใต้ ปัจจุบันสนามบินคิมโพได้เปิดให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศแต่จะมีบ้างเที่ยวบินพิเศษที่บินไปยังโตเกียว(สนามบินฮาเนดะ) โอซาก้า (สนามบินคันไซ) เซี่ยงไฮ้ (สนามบินหงเฉียว) ปักกิ่ง สนามบินอินชอนได้รับการจัดอันดับเป็นท่าอากาศยานที่ดีที่สุดในโลกโดยสภาท่ออากาศยานสากล และยังได้รับการยอมรับจากสกายแทร็กว่าเป็นสนามบินระดับ 5 ดาว ในปี 2552 อีกด้วย ที่สนามบินแห่งนี้ยังมีสนามกอล์ฟ, สปา, มีบริการห้องพัก, ลานสเก็ตน้ำแข็ง, บ่อนคาสิโนและสวนในร่มและพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมเกาหลีก็ต้องอยู่ภายในสนามบินอินชอน ปัจจุบันนี้สนามบินแห่งนี้ให้บริการทุกสายการบินไม่ว่าจะเป็นการขนส่งและบริการผู้โดยสาร สายการบินที่บินลงที่สนามบินอินชอน จากประเทศไทย ก็จะ มีการบินไทย(TG) โคเรียนแอร์ (KE) บิชิเน็ตแอร์ (8B) เอเชียน่าแอร์ไลน์

ภายในเเละภายนอกสนามบิน